วิธี Move On จากแฟนเก่าแบบเกย์สายสตรอง
การเลิกรากับคนรักไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อคุณอยู่ในความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและใช้เวลาร่วมกันมานาน สำหรับเกย์หลายคน ความสัมพันธ์ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของความรัก แต่ยังเป็นเรื่องของมิตรภาพ การยอมรับ และการเติบโตไปด้วยกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่ต้องจบความสัมพันธ์ การ Move On อาจเป็นเรื่องยากและต้องใช้เวลา บทความนี้จะช่วยให้คุณก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง
ยอมรับความจริงและให้เวลาตัวเอง
สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือยอมรับความจริงว่าความสัมพันธ์ได้สิ้นสุดลงแล้ว หลายคนพยายามปฏิเสธความจริง หรือยึดติดกับอดีตโดยหวังว่าสิ่งต่าง ๆ จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่การปฏิเสธเพียงแต่ยืดเวลาความเจ็บปวดออกไปมากขึ้น สิ่งสำคัญคือการเผชิญหน้ากับความจริงและตระหนักว่าทุกความสัมพันธ์มีจุดเริ่มต้นและจุดจบเป็นเรื่องธรรมดา
ให้เวลากับตัวเองในการเยียวยา หยุดโทษตัวเองและยอมรับว่าการเลิกกันไม่ได้หมายความว่าคุณล้มเหลวในความรัก ใช้เวลานี้ในการทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นและเรียนรู้จากความสัมพันธ์ที่ผ่านมา อย่ากดดันตัวเองให้ต้องรีบดีขึ้นทันที เพราะการเยียวยาจิตใจต้องใช้เวลา และแต่ละคนก็มีวิธีฟื้นตัวที่แตกต่างกัน
ตัดขาดการติดต่อและหลีกเลี่ยงโซเชียลมีเดีย

การที่คุณยังติดตามหรือคอยส่องแฟนเก่าผ่านโซเชียลมีเดียจะทำให้คุณ Move On ได้ยากขึ้น การเห็นโพสต์หรือรูปภาพของเขาอาจกระตุ้นความรู้สึกเก่า ๆ และทำให้คุณวนเวียนอยู่กับอดีต ลองคิดดูว่าทุกครั้งที่คุณเห็นเขาโพสต์อะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี มันส่งผลต่ออารมณ์ของคุณแค่ไหน
การตัดขาดจากโซเชียลมีเดียหมายถึงการเลิกติดตาม (Unfollow) ลบ (Remove) หรือแม้แต่บล็อก (Block) หากจำเป็น ไม่ใช่เพราะคุณเกลียดเขา แต่เพราะคุณต้องให้โอกาสตัวเองได้ฟื้นตัวโดยไม่มีสิ่งกระตุ้นที่ทำให้คุณย้อนกลับไปคิดถึงเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า นอกจากนี้ หากคุณมีเพื่อนกลุ่มเดียวกัน คุณอาจต้องพูดคุยกับพวกเขาว่าคุณต้องการพื้นที่ส่วนตัว และขอให้พวกเขาเคารพการตัดสินใจของคุณ
โฟกัสที่ตัวเองและพัฒนาตัวเอง
หลังจากเลิกกัน นี่อาจเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการกลับมาดูแลตัวเอง ใช้เวลานี้เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ คุณอาจเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายช่วยลดความเครียด และยังช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจในรูปร่างของตัวเองมากขึ้น
ลองหาเวลาทำสิ่งที่คุณชอบ อาจเป็นการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เช่น การทำอาหาร เล่นดนตรี หรือแม้แต่การเขียนบันทึกประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาเพื่อเป็นการระบายความรู้สึก นอกจากนี้ การอ่านหนังสือที่ช่วยเสริมสร้างจิตใจ หรือฟังพอดแคสต์ที่ให้กำลังใจ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณก้าวผ่านช่วงเวลานี้ได้
เปิดใจพบปะผู้คนใหม่ ๆ

การเปิดใจให้ตัวเองได้เจอผู้คนใหม่ ๆ ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องรีบมีแฟนใหม่ทันที แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เข้าสังคมอีกครั้ง การพบปะผู้คนใหม่ ๆ จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้ว่ามีโลกที่กว้างใหญ่กว่าความสัมพันธ์ที่จบลงไป คุณสามารถเริ่มต้นจากการเข้าร่วมกิจกรรม LGBTQ+ หรือพบปะเพื่อนใหม่ที่มีความสนใจเหมือนกัน
บางคนอาจเลือกใช้แอปพลิเคชันหาคู่ เช่น Quicky เพื่อพูดคุยกับคนใหม่ ๆ อย่างสบายใจโดยไม่มีความคาดหวัง การพูดคุยและทำความรู้จักกับคนใหม่ ๆ สามารถช่วยเติมเต็มชีวิตและทำให้คุณเห็นว่ามีโอกาสใหม่ ๆ รออยู่เสมอ
สร้างเป้าหมายใหม่ในชีวิต
หลังจากจบความสัมพันธ์ สิ่งที่ช่วยให้คุณเดินหน้าต่อไปได้คือการมีเป้าหมายใหม่ ลองตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว อาจเป็นเป้าหมายเล็ก ๆ เช่น การออกทริปคนเดียว หรือเป้าหมายใหญ่ เช่น การเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัว การมีเป้าหมายจะช่วยให้คุณมีบางสิ่งที่ต้องโฟกัสแทนที่จะจมอยู่กับอดีต
สร้างเครือข่ายเพื่อนและครอบครัวที่สนับสนุนคุณ
ช่วงเวลาหลังจากเลิกกันอาจทำให้คุณรู้สึกโดดเดี่ยว ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องห้อมล้อมตัวเองด้วยคนที่รักและสนับสนุนคุณ เพื่อนและครอบครัวสามารถเป็นที่พึ่งพิงที่ดีในการให้กำลังใจและช่วยให้คุณรู้สึกว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว ออกไปใช้เวลากับเพื่อน ทำกิจกรรมที่ทำให้คุณมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ทานอาหาร หรือออกไปเที่ยวในที่ที่คุณไม่เคยไปมาก่อน การมีสังคมที่ดีจะช่วยให้คุณรู้สึกแข็งแกร่งขึ้นและมีพลังบวกในการใช้ชีวิต
อย่าหวนกลับไปหาความสัมพันธ์แบบเก่า

บางครั้งเมื่อรู้สึกเหงาหรืออ่อนแอ คุณอาจมีความคิดที่จะกลับไปหาแฟนเก่า โดยเฉพาะถ้าความสัมพันธ์เก่าของคุณเต็มไปด้วยปัญหา แต่ขอให้คุณเตือนตัวเองว่า การกลับไปหาอดีตอาจไม่ได้ช่วยให้คุณมีความสุขขึ้น และอาจทำให้คุณเจ็บปวดมากกว่าเดิม
การ Move On จากแฟนเก่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ การยอมรับความจริง ตัดขาดจากอดีต โฟกัสที่ตัวเอง เปิดใจพบปะผู้คนใหม่ ๆ และสร้างเป้าหมายในชีวิต ล้วนเป็นวิธีที่ช่วยให้คุณก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้อย่างเข้มแข็ง โปรดจำไว้ว่า คุณมีคุณค่าในตัวเอง และสมควรได้รับความรักที่ดีขึ้นในอนาคต ชีวิตยังมีอะไรอีกมากมายให้คุณได้ค้นหาและเติมเต็ม ดังนั้น เดินหน้าต่อไปอย่างมั่นใจ และใช้ชีวิตในแบบที่ทำให้คุณมีความสุขที่สุด
